WAX สมุนไพรกำจัดขนได้เกลี้ยงเกลาจริง ๆ บำรุง และ กระชับรูขุมขน

 ร้าน  PewDee-By-Vasane' ตอบโจทย์  ทุกปัญหา  ผิวพรรณ พิเศษ ***โปรโมชั่น  ส่วนลด  ของแถม  มากมาย***  ส่งฟรี !!! EMS  จ้า...  คุณพิม  083-304-3193
  http://www.pewdee-by-vasane.com
 Vasane’ Honey & tamarind Wax ดูจากราคาอย่างพึ่งตกใจ หรือมองว่าแพงนะคะ เพราะของเรา 120 g ใช้ได้นานกว่า6-12เดือนค่ะ ถือว่าไม่แพงเพราะก่อนหน้านี้เราขาย190บาทแต่ปริมาณแค่40 g นี่ 120 g ถ้าลองคำนวนดูแล้วอันนี้ถูกกว่าเดิมและคุณภาพดีดว่ามากๆค่ะ แว๊กซ์สมุนไพรกำจัดขน ทำจากสมุนไพรธรรมชาติ100% ผสมน้ำผึ้งบริสุทธิ์แท้ ขมิ้น ไพล มะนาว มะขาม และ เปลือกไม้ตระกูลส้ม เข้าด้วยกันในอัตราส่วนที่พอเหมาะและเข้มข้นมาก โดยการสกัดจากเปลือกผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเพื่อที่จะได้กรดบริสุทธิ์และมีความเข้มข้นในการย่อยสลายเส้นขน กำจัดขนได้อย่างรวดเร็ว ง่าย ไม่เจ็บ และ Lanolin ในWax จะช่วยบำรุงและกระชับรูขุมขน สามารถถอนขนได้ลึกถึงรากขนโดยวิธีง่าย ๆ ไม่เจ็บ ช่วยชะลอการเกิดของขนใหม่และให้ขนที่เกิดขึ้นใหม่เส้นเล็กลง อ่อนนุ่ม เบาบางเป็นธรรมชาติ พร้อมสารบำรุงในน้ำผึ้งและในเนื้อแว๊กซ์เย็น ช่วยทะนุถนอมผิวสวยให้เนียนนุ่มเกลี้ยงเกลาทั่วบริเวณที่กำจัดขน และ AHA จากมะขามทำให้ผิวเนียนกระจางใส จนสัมผัสได้ถึงความแตกต่างหลังWax ผลิตภัณฑ์กำจัดขนแบบWaxเย็นที่ทำจากน้ำผึ้ง มีกลไกการทำงานที่แตกต่างจากการใช้สารเคมี การทำงานของขี้ผึ้งกำจัดขนจะต้องเริ่มจาก ทำให้เส้นขนฝังอยู่ในขี้ผึ้งเสียก่อน เมื่อดึงขี้ผึ้งออก เส้นขนก็จะถูกถอนออกมาด้วย(พร้อมรากขน) จะเจ็บมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับบริเวณที่กำจัดขน และจำนวนเส้นขนที่ถูกถอนออกมา ข้อดี คือ ผิวจะเรียบเนียน ปราศจากขนนานหลายเดือน เพราะรากขนถูกถอนออกมาด้วยแล้ว อีกนานกว่าขนใหม่จะขึ้นและขนใหม่ที่ขึ้นมาก็ไม่แข็งด้วยค่ะ ส่วนประกอบสำคัญ มะขาม น้ำผึ้ง ขมิ้น ไพล มะนาว   มะกรูด วิธีใช้ 1 ทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการแว็กซ์ให้สะอาด เช็ดให้แห้ง
2. ทาแป้งฝุ่น บาง ๆ บริเวณที่ต้องการwax เพื่อให้แป้งดูดซึมน้ำและซับความชื้นให้ผิวแห้งขึ้น ทำให้การแว็กซ์ได้ผลดีขึ้น
3. ทา wax บาง ๆใน ทิศทางเดียวกับการเอนของขน
4. นำแถบผ้าวางบน แว๊กซ์ ที่ทาทันที ลูบผ้าตามแนวขนที่ขึ้น 3-5 ครั้ง ทิ้งไว้สัก1นาที (ไม่ควรใช้พัดลมเป่า เพราะWaxจะแห้งและไม่ให้ผลเต็มที่)
5. ใช้มือข้างหนึ่งดึงเนื้อบริเวณที่ต้องการกำจัดขนให้ตึงอีกมือหนึ่งกระตุกผ้าออกทันทีในลักษณะแนวย้อนขน
6. ปฏิบัติตามขั้นตอนเดิมซ้ำโดยไม่ต้องทา แว๊กซ์ซ้ำ จนขนหลุดออกหมด
7. เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยหมดจดแล้ว ล้างฟอกสบู่ให้สะอาด กระชับรูขุมขนและบำรุงผิวด้วยการใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์โลชั่นทาอีกครั้ง **** แถบผ้าสามารถนำไปซักล้าง และเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไป
**** ขนที่ขึ้นใหม่จะเบาบาง และละเอียด ควรwaxซ้ำเมื่อขนมีความยาวเพียงพอประมาณ 1 เซนติเมตร หรือทำซ้ำภายใน 6-8 สัปดาห์ *** ไม่ควรใช้กับผิวหนังที่บอบบางเกินไปเช่น เปลือกตา ในจมูกหรือหู หัวนม หรืออวัยวะเพศส่วนนอก บริเวณที่มีเส้นเลือดขอด หูด มีรอยถลอกบาดแผล
คำเตือน
1. ระวังอย่าให้เข้าปากหรือตา และเก็บให้พ้นมือเด็ก
2. การใช้เจลควรเว้นระยะ 1 สัปดาห์ นับจากการใช้เจลครั้งล่าสุด
3. ต้องหยุดใช้ทันทีหากทีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน หรือมีเม็ดผื่นแดงขึ้นบริเวณที่ใช้เจลขจัดขน
4. ไม่ควรใช้เจลขจัดขนบริเวณผิวที่มีอาการระคายเคือง อักเสบ หรือแผลสดอยู่ก่อนแล้ว
5. เมื่อใช้เสร็จควรปิดฝาให้แน่นทุกครั้ง ปริมาณสุทธิ 120 g (ใช้ได้นานประมาณ6เดือนเลยค่ะ คุ้มมากๆ) การกำจัดขนมีหลายวิธีดังนี้ค่ะ 1. การโกน
      
       เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเงินแพง เหมาะกับขนบริเวณขา รักแร้ และแนวบิกินี่ ก่อนโกนควรทำให้เส้นขนเปียก แต่อย่าแช่น้ำนานจนผิวเหี่ยว เพราะจะทำให้โกนได้ไม่เนียน หรือจะใช้ครีมหรือเจลสำหรับโกนขนขา ก่อนโกนก็ได้
      
       ข้อเสียของการโกนก็คือ ขนที่ขึ้นใหม่จะแข็งเป็นตอและขึ้นเร็วมาก ทำให้ต้องโกนทุกวันหรือโกนซ้ำบ่อยๆ บางครั้งการโกนชิดผิวมากอาจทำให้เกิดแผลถลอก ผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อได้ถ้ารักษาความสะอาดไม่ดีพอ
      
       หลังการโกน อาจทาโลชั่นที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (ถ้ามีแอลกอฮอล์จะแสบ) ตามด้วยแป้งเด็กเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลแก่ผิว ไม่ควรโกนขนก่อนออกกำลังกาย เล่นน้ำทะเล หรืออาบแดด เพราะจะทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้
      
       สำหรับสุภาพสตรีไม่จำเป็นต้องใช้ที่โกนหนวด For Lady สีหวานแหวว เพราะเป็นเพียงเหตุผลทางด้านการตลาดเท่านั้น ที่จริงแล้วที่โกนหนวดของคุณผู้ชายโกนได้เนียนกว่าเสียอีก แต่อย่าใช้ปนกันจนติดโรคก็แล้วกัน
      
       นอกจากการโกนด้วยใบมีดแล้ว เครื่องโกนหนวดไฟฟ้าก็ใช้ได้ดีและสะดวก แต่ไม่ควรใช้บริเวณแนวบิกินี่เพราะเครื่องอาจจะกินเนื้อได้
      
2. การถอน
      
       วิธีนี้สะดวก ไม่ต้องอาศัยเครื่องไม้เครื่องมือมาก แต่ข้อเสียคือเจ็บ และทำให้ผิวเป็นตุ่ม ขนจะขึ้นใหม่แต่ช้ากว่าการโกน
      
3. การแว็กซ์
      
       ใช้หลักการเดียวกับการถอน แต่ใช้แว็กซ์เป็นตัวจับขนแทนแหนบ ปัจจุบันมีสารที่ใช้สำหรับดึงขนหลายชนิด มีให้เลือกทั้งแบบร้อน แบบเย็น แบบแผ่น โดยใช้สารเหล่านี้ตรึงขนแล้วดึงย้อนทิศทางของขน เหมาะกับขนที่ขา แนวบิกินี่ และขนคิ้ว วิธีนี้ทำให้เส้นขนขาดเกือบถึงรากขนจึงไม่ต้องทำบ่อย เห็นผลอยู่นาน 6-8 สัปดาห์
       หลังการใช้แว็กซ์ ผิวจะเรียบและนุ่มนวลกว่าการโกน แต่ข้อเสียคือเจ็บ     ปัจจุบันมีผู้คิดสูตรสมุนไพรกำจัดขนขึ้นใช้ ที่น่าสนใจได้แก่ สูตรน้ำผึ้ง (แท้) มะขามเปียก น้ำมะนาว น้ำมะกรูด และขมิ้นทอง ซึ่งนอกจากกำจัดขนแล้วยังช่วยบำรุงผิวไปในตัว
      
4. การใช้สารเคมี
      
       สารเคมีอาจมีทั้งชนิดผง เจล โลชั่น โรลออน หรือครีม ซึ่งสามารถสลายโปรตีนในเส้นขน ทำให้เส้นขนบวมหัก ควรใช้เฉพาะบริเวณแขนขาเท่านั้น ไม่ควรใช้บริเวณใบหน้า และบริเวณที่ทาสารเคมีไม่ควรมีบาดแผล ทาทิ้งไว้ประมาณ 4-15 นาทีแล้วจึงล้างออก
      
       ข้อเสียของวิธีนี้คือมีกลิ่นเหม็น และขนเส้นหนาๆ มักออกไม่หมด นอกจากนี้สารเคมีมักมีผลต่อผิวหนังบริเวณนั้นด้วย หลายคนจึงเกิดอาการแพ้ ก่อนใช้สารเคมีกำจัดขนจึงควรทดสอบอาการแพ้ก่อน
      
5. การจี้ด้วยไฟฟ้า
      
       เป็นวิธีที่ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ คือใช้ปลายเข็มเหมือนลวดเส้นเล็กๆ ใส่ลงไปตามรูขุมขน แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าไปทำลายต่อมขน ถ้าทำลายได้หมดก็จะไม่มีขนใหม่ขึ้น แต่ผู้ทำต้องมีความชำนาญมาก
      
       วิธีนี้กำจัดขนได้ถาวรประมาณ 15-20% ของจำนวนขนที่จี้ไฟฟ้าในแต่ละครั้ง ขนที่ขึ้นใหม่ช้าลง แต่ต้องใช้เวลาทำนาน ราคาแพง ทำได้ในพื้นที่เล็กๆ ถ้าขนเส้นหนาจะทำลำบาก
      
       การจี้ด้วยไฟฟ้าอาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง ถ้าทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียงของขนมากไป ก็จะทำให้มีแผลเป็นเล็กๆ จุดด่างดำ รอยไหม้จากความร้อนที่เกิดขึ้น หรือผิวเป็นตุ่ม บางรายอาจติดเชื้อได้
      
6. การใช้เลเซอร์
      
       เป็นการทำลายรากขนด้วยแสงเลเซอร์ โดยการควบคุมปริมาณแสงและกำหนดตำแหน่ง จะแม่นยำกว่าการใช้กระแสไฟฟ้า
      
       ข้อดีคือกำจัดขนได้ถาวรมากกว่าการจี้ด้วยไฟฟ้า ทำได้ในพื้นที่ใหญ่ๆขนจะขึ้นใหม่ช้าลงเช่นกัน แต่ข้อเสียคือราคาแพง และจะได้ผลดีที่สุดในคนผิวสีไม่เข้มและขนสีดำ แต่ถ้าขนสีจางลงและผิวคล้ำขึ้น การทำเลเซอร์ก็จะยากขึ้นตามลำดับ
       ก่อนการทำเลเซอร์ห้ามถอนขนหรือแว็กซ์ 4-6 สัปดาห์ ใช้เวลาทำทั้งหมด 2-6 ครั้งจึงจะกำจัดขนได้อย่างถาวร ระยะห่างของการทำแต่ละครั้ง ถ้าเป็นบริเวณแขนขาใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ถ้าเป็นบริเวณใบหน้าประมาณ 1 เดือน
      
       การใช้เลเซอร์กำจัดขนอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนคล้ายๆ กับการจี้ด้วยไฟฟ้าได้ เช่น ผิวดำเป็นจุดตรงตำแหน่งที่ทำเลเซอร์ ซึ่งมักเกิดในคนผิวสีเข้ม การป้องกันคือทายากันแดดที่มี SPF มากกว่า 15 นอกจากนี้อาจเกิดแผลเป็นได้ แต่พบได้น้อยหากใช้ความแรงของเลเซอร์ให้เหมาะสม
      
       หลังทำเลเซอร์จะรู้สึกแสบร้อนเล็กน้อยประมาณ 2-3 ชั่วโมง และจะเป็นรอยบวมแดงเล็กน้อยบริเวณรูขุมขนประมาณ 2-3 วันสำหรับใบหน้า หรือไม่เกิน 7 วันสำหรับแขนขาหรือลำตัว อาจใช้น้ำแข็งหรือถุงเย็นประคบบ่อยๆ สามารถอาบน้ำฟอกสบู่ได้ตามปกติแต่อย่าขัดผิว งดใช้เครื่องสำอางหรือน้ำหอมบริเวณที่กำจัดขนประมาณ 1-2 วัน   สรุป คือการแว๊กซ์จะปลอดภัยและดีที่สุด