Omex-3 น้ำมันตับปลา มีคุณประโยชน์ต่อทุกคนในครอบครัว (ลองอ่านข้อมูลก่อนนะคะ)

ดีเอชเอ คือ กรดไขมันจำเป็นในกลุ่มโอเมก้า-3 ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับจากการรับประทานอาหารจำพวกปลาทะเลน้ำลึกในเขตหนาว เช่น ปลาทูน่า เท่านั้น ดีเอชเอมีความสำคัญต่อพัฒนาการและ ช่วยบำรุงสมองและสายตา ตั้งแต่ทารกในครรภ์ไปจนถึงวัยสูงอายุ แต่ปัจจุบันกลับพบว่าอาหารที่คนส่วนใหญ่บริโภคนั้นมีปริมาณของกรดไขมันจำเป็นในกลุ่มโอเมก้า-3 โดยเฉพาะ DHA น้อยลง จนทำให้เกิดปัญหาของสมองและสายตาในวัยต่างๆ เช่น  
ปัญหาของทารกและเด็กที่ขาด DHA การมองเห็นของทารกลดลง และอาจก่อให้เกิดโรคตาบอดกลางคืนได้ นอกจากนั้นยังทำให้เกิดปัญหาการเป็นโรคสมาธิสั้นและระดับไอคิวลดต่ำลง ซึ่งสามารถสังเกตจากการที่เด็กมีพัฒนาการเรียนรู้ทั้งด้านการอ่านและการเขียนช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน 
ปัญหาของคนวัยทำงานที่ขาด DHA มีอาการซึมเศร้า เครียดและเกิดความก้าวร้าว เกิดอาการดวงตาอ่อนล้าบ่อย ๆ และมีประสิทธิภาพการมองเห็นลดลง  
ปัญหาของวัยสูงอายุที่ขาด DHA ความสามารถทางสติปัญญาลดลง ในบางรายอาจเกิดอาการของโรคอัลไซเมอร์และโรคสมองเสื่อมอื่นๆ และจอประสาทตาฝ่อตัวอักเสบได้ ดังนั้นเพื่อการพัฒนาและการบำรุงสุขภาพของสมอง ดวงตา และประสาทตาอย่างเหมาะสม ในทุกๆ วัยจึงควรได้รับ DHA ในปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ดังนี้ เด็กน้ำหนักตัว 3-5 กก.รับประทาน 1-2 แคปซูล /วัน สำหรับวัยทำงาน รับประทาน 1-2 แคปซูล / วัน สำหรับผู้สูงวัย รับประทาน 4-6 แคปซูล / วัน  
เพิ่มเติมค่ะ ดีเอชเอ (Docosahexaenoic acid; DHA) เป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์สมองส่วนสีเทา (Cerebral gray matter) โดยที่ 40% ของกรดไขมันในสมองและ 60% ของกรดไขมันในประสาทตาคือ DHA หากสมองมีระดับ DHA ลดต่ำลงจะมีผลเกี่ยวกับการมองเห็น ระดับไอคิว ความสามารถในการเรียนรู้ของทารก เด็กและวัยรุ่น ผลทางด้านอารมณ์ ความเครียด และภาวะซึมเศร้าของผู้ใหญ่ รวมทั้งโอกาสในการเป็นโรคทางสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์ของผู้สูงอายุ DHA เป็นกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้จากการรับประทานอาหารจำพวกปลาทะเลน้ำลึกในเขตหนาว เช่น ปลาทูน่า เท่านั้น DHA มีคุณค่าและความสำคัญต่อคนทุกวัย ดังนี้  
DHA คุณค่าสำคัญที่จำเป็นต่อแม่และลูก ในช่วงตั้งครรภ์ ทารกจะได้รับ DHA ผ่านทางรก เพื่อช่วยเพิ่มน้ำหนักตัวและลดความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด และเมื่อถึงระยะที่สมองเจริญเติบโตสูงสุด (3 เดือนก่อนและหลังคลอด) ทารกจะมีความต้องการ DHA ในปริมาณสูงที่สุด หลังจากนั้นก็ยังคงสะสม DHA ในสมองอย่างต่อเนื่องจนมีอายุครบ 1 ปี ด้วยเหตุนี้คุณแม่ที่มีอายุครรภ์ระหว่าง 25-35 สัปดาห์และคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร ควรได้รับ DHA ในปริมาณ 1,000 –1,500 มิลลิกรัม DHA เพิ่มความจำและป้องกันโรคสมาธิสั้นให้เด็กวัยเรียน เด็กวัยเรียนนี้ต้องใช้สมองมาก ทั้งท่องจำ คิดเลข เรียนรู้ด้านภาษา ฝึกทักษะความคิดสร้างสรรค์ฯลฯ ตลอดจนต้องใช้สายตามากเป็นพิเศษในการอ่านหนังสือ เด็กในวัยนี้จึงควรได้รับ DHA ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และการเจริญเติบโตของสมอง อีกทั้งช่วยบรรเทาความเครียดจากการเรียน จากผลการวิจัยที่ทดสอบระดับความเครียดในเด็กนักเรียนก่อนและหลังสอบข้อสอบที่มีความยากสูง พบว่า นักเรียนมีระดับ DHA ในสมองต่ำจะมีความเครียดสูงกว่านักเรียนที่มี DHA ในสมองสูง ด้วยเหตุนี้นักเรียนในประเทศญี่ปุ่นที่มีการแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยสูง นิยมรับประทาน DHA ก่อนสอบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความจำและทำให้มีสมาธิ มากกว่านั้นระดับ DHA ในสมองที่สมดุลยังช่วยป้องกันเด็กวัยนี้ให้ไกลจากการเป็นโรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder; ADHD) ที่ทำให้เด็กไม่สามารถควบคุมสมาธิและการเคลื่อนไหวของตนเอง จนทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ผลการเรียนตกต่ำถึงแม้ระดับสติปัญญาจะปกติ ปัญหาด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่น และเพิ่มโอกาสการเกิดสภาพจิตอื่นๆตามมาในอนาคต ดังนั้นเด็กวัยนี้จึงควรได้รับปริมาณ DHA อย่างเพียงพอในปริมาณ 20 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม DHA สารอาหารจุดกำเนิดความคิดสร้างสรรค์สำหรับวัยทำงาน วัยนี้มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคซึมเศร้า (Depression)ที่มีอาการหงุดหงิด ไม่สบายใจ หม่นหมอง และนอนไม่หลับบ่อยๆ ซึ่งนอกจากจะส่งผลให้เกิดความเครียดมากขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้หมดกำลังใจและสิ้นหวังไปทุกๆ อย่าง สาเหตุหนึ่งเกิดจากสภาวะความกดดันจากการทำงานหรือปัญหาในครอบครัว การดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ แต่สาเหตุสำคัญของปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดจากการที่ร่างกายมีระดับ DHA ในสมองต่ำกว่าปกติ การที่วัยนี้ได้รับ DHAอย่างเพียงพอในปริมาณ 1,000 –3,000 มิลลิกรัมต่อวันจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะไม่เพียงแต่ป้องกันโรคซึมเศร้าแล้ว ยังสามารถช่วยคืนความสดชื่นให้กับสมองที่เครียดและอ่อนล้าจากการใช้ความคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาในการทำงานอีกด้วย DHA สารอาหารพิทักษ์ความทรงจำให้คงอยู่นานเท่านาน อัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมสลายของเซลล์สมอง ซึ่งมักเกิดกับผู้สูงอายุ ทำให้เกิดอาการตั้งแต่ หลงลืมเรื่องที่เพิ่งเกิด เช่น ลืมชื่อคน ลืมของ หาของใช้ไม่พบ ชอบพูดซ้ำ ไปจนถึงลืมวันลืมเดือน บางท่านอาจมีอารมณ์หงุดหงิด จนก้าวร้าวหรือท้อแท้ในชีวิต ซึ่งจากผลการวิจัยในผู้สูงอายุกว่า 1,000 คน เป็นเวลา 10 ปี พบว่าสภาวะดังกล่าวมีสาเหตุจากการที่มีระดับ DHA ในสมองลดต่ำลง เราในฐานะบุตรที่ต้องตอบแทนพระคุณของพ่อและแม่ หากท่านเริ่มปรากฏอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมหรือไม่ ที่สำคัญควรดูแลท่านในเรื่องของอาหารเพื่อให้ได้รับ DHA อย่างเพียงพอในปริมาณ 1,000 –3,000 มิลลิกรัมต่อวัน รวมถึงดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคอื่นๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ ความคิดสร้างสรรค์ที่ก่อกำเนิดการพัฒนาทั้งหลายต่างมีจุดกำเนิดจาก DHA แทบทั้งสิ้น แต่น่าเสียดายที่พวกเราไม่ค่อยได้กินปลาทะเลน้ำลึกในเขตหนาวจึงทำให้ได้รับปริมาณ DHAไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงควรรับประทานปลาทูน่าแหล่งที่ให้ปริมาณ DHA สูงในรูปแบบแคปซูลที่สะดวก เพื่อที่จะได้รับ DHA ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน แต่ทั้งนี้ ควรเลือกน้ำมันปลาทูน่าจากผู้จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้โดยดูจากมาตรฐานการผลิตยาระดับสากล BfArM (เยอรมันนี) TGA (ออสเตรเลีย) และ GMP (ประเทศไทย) เป็นสำคัญ เพื่อสมองอวัยวะส่วนที่สำคัญที่สุดของร่างกายจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ ชื่อสินค้า : น้ำมันปลา ทูน่า ยี่ห้อ : Omex-3 ราคา :     ขนาด : 60 capsule ปกติ 570.00 ฿ 

1กระปุก        ราคา       295.00+ค่าส่ง25 ฿ 
2กระปุก        ราคา       590บาท
3กระปุก        ราคา       870บาท
6กระปุก        ราคา       1,720บาท
12กระปุก      ราคา       3,200บาท

  รายละเอียด : โอเม็กซ์-ทรี ทูน่าออยล์ 25 (Omex-3 Tuna Oil 25) มีส่วนช่วยบำรุงสมองและสายตา   ส่วนประกอบที่สำคัญ ประเทศที่นำเข้า น้ำมันจากปลาทูน่า 500 มก. แหล่งที่มาจากมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 กรดโคโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 125 มก. กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) 25 มก. วิตามิน อี 0.5 มก. สหรัฐอเมริกา ขนาดรับประทาน รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร 
ข้อควรระวัง ผู้ป่วยที่เป็นโรคเลือดออกได้ง่ายห้ามทาน เช่น ผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านเกร็ดเลือด หรือ แอสไพริน ผู้ที่มีเกร็ดเลือดต่ำ, มีจุดเลือดออกตามตัว, มีเส้นเลือดแตกในสมอง, เส้นเลือดแตกในจอตา จากโรคจอตาเสื่อมระยะสุดท้ายในเบาหวาน เป็นต้น ส่วนคนที่แพ้อาหารทะเล สามารถทานน้ำมันปลาได้ และมีความปลอดภัย สอบถามโทร 084-6355263   หรือเข้าไปดูข้อมูลร้านค้าได้ที่นี่ค่ะ http://www.mnteamhome.pantown.com/" target='_blank' rel='nofollow'>www.mnteamhome.pantown.com/      โอนเงิน ธ.กรุงไทย      สาขาสมุทรสาคร เลขที่ บ/ช 712-1-80248-1     ธ.ไทยพาณิชย์  สาขาถนนประชาอุทิศ เลขที่ บ/ช 134-226586-7  

ธ.กรุงเทพ สาขาย่อยคาร์ฟูร์ พระราม 2 
เลขที่ บ/ช 915-005-4188 

ธ.กสิกรไทย สาขาย่อยคาร์ฟูร์ พระราม2 
เลขที่ บ/ช 619-209-5563 

ชื่อบ/ช SUPAWADEE LH.