ผลิตภัณฑ์การเกษตร ปลอดสารพิษ

หน้าแรก » อื่น ๆ จิปาถะ » อื่นๆ

ผลิตภัณฑ์การเกษตร ปลอดสารพิษ




HYLIFE GRO ด้วยแนวความคิดที่ต้องการให้ธรรมชาติดูแลธรรมชาติ ต้องการให้เกษตรกรประหยัดต้นทุน ทั้งต้นทุนทางเวลา แรงงาน และเงิน นอกจากนี้ยังต้องมีความปลอดภัยทั้งต่อพืช สภาพแวดล้อม และต่อผู้ใช้ http://thehealthylife.lnwshop.com/

ไฮไลฟ์โกร “ คืนชีวิตใหม่ให้ต้นไม้ คืนกำไรให้เกษตรกร “ นำสารอินทรีย์ธรรมชาติ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รักษาสมดุลในต้นพืช ช่วยทำให้พืชดูดซับธาตุอาหาร และสร้างอาหารได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้พืชไม่ชะงักการเจริญเติบโต แม้อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ฟื้นฟูโครงสร้างของดินให้ร่วนซุยขึ้น และช่วยปรับสภาพของดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในดิน ช่วยให้พืชประธานทนต่อพิษจากสารเคมี ดูดซึมได้เร็ว ทั้งทางใบ ทางราก และลำต้น ฟื้นฟูต้นพืชที่โทรมให้แข็งแรง ระบบรากสมบูรณ์ ดูดซึมดี ทนร้อน ต้านหนาว ฝนแล้ง ฝนชุก ไม่มีสารตกค้างในดิน
ไฮไลฟ์โกร มี 2 สูตร คือ
ไฮไลฟ์โกรเอส ใช้ในช่วงเพาะเมล็ดและช่วงเริ่มปลูก
ไฮไลฟ์โกรแอล ใช้ในช่วงสะสมอาหาร ช่วงเปิดตาดอก และช่วงติดผลลงหัว
*สามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิด *สามารถฉีดได้ทุกช่วงเวลา ไม่ต้องรอปากใบเปิด *สามารถผสมกับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้ *ธรรมชาติ 100 % * ไม่ใช่สารเร่ง

ไฮไลฟ์โกร คุณลักษณะผลิตภัณฑ์เป็นสารอินทรีย์ชนิดเข้มข้นประเภทสารอาหารพืชสกัดได้จากแหล่งธรรมชาติตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น สกัดจากส่วนต่างๆของต้นพืช วัตถุดิบในการผลิต สั่งนำเข้าจากต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการทดสอบและยอมรับกันทั่วโลกแล้วว่าสามารถนำมาใช้ได้ ผลดีกับพืชทุกชนิด ปลอดภัย ไม่มีสารตกค้างในผลผลิตและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
คุณสมบัติ ไฮโกรเอส ไฮโกรแอล 1. ไม่ใช่สารชีวภาพประเภทจุลินทรีย์หมักหรือสกัดได้จากส่วนของกระดองปูหรือเปลือกกุ้งแต่อย่างใด 2. เป็นเนื้อสารเข้มข้นมีสารอาหารพืชต่างๆครบถ้วนตามที่พืชต้องการรวมอยู่เป็นเนื้อสารเดียวกัน 3. ช่วยลดต้นทุนการใช้สารอื่นๆมาใช้ผสมร่วมเกินความจำเป็น 4. ดูดซึมได้รวดเร็ว พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที 5. สามารถผสมฉีดพ่นร่วมกับสารป้องกันกำจัดแมลงและสารกำจัดโรคได้ทุกประเภทโดยไม่เสื่อมฤทธิ์ 6. ไม่จับตัวตกตะกอนแข็งและไม่จับก้อนเป็นวุ้นเมื่อผสมร่วมกับสารอื่นๆ 7. มีคุณประโยชน์ข้อดีกับต้นพืชมากกว่าเกิดโทษ 8. ใช้ได้กับทุกช่วงระยะการเจริญเติบโตของต้นพืชประโยชน์

ไฮไลฟ์โกร S - L
• ใช้เพื่อฟื้นสภาพต้นให้สมบูรณ์ พืชไม่่โทรมง่ายเช่น หลังจากมีเพลี้ย,หนอนหรือโรคระบาดเข้าทำลาย
• ใช้เพื่อทดแทนสารอาหาร ขณะที่พืชวิกฤติหาได้ไม่เพียงพอจากธรรมชาติ
• ใช้เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ ให้กับทุกส่วนของต้นพืช เช่น ส่วนราก ยอด ดอกและผล
• ใช้เพื่อให้ต้นพืชปรับสภาพทนทานและต้านทานต่อสภาพอากาศร้อนหรือหนาว
• ช่วยสร้างผนังเซลล์พืชให้แข็งแรง สามารถช่วยต้านทานต่อโรคและแมลง

ไฮไลฟ์โกรเอ็กซตร้า นวัตกรรมสารอินทรีย์ธรรมชาติที่อยู่ในรูปพร้อมใช้งานและมีขนาดเล็กจนเข้าสู่ทุกส่วนของพืชได้ทันที เกิดขึ้นมาเพื่อทดแทนปุ๋ยเคมี เพราะการใช้ปุ๋ยเคมีมาก จะเป็นการทำลายโครงสร้างของดิน ใช้กับต้นไม้ทุกชนิดที่โตแข็งแรงพร้อมจะกินปุ๋ยแล้ว และเริ่มใช้ ทดแทนปุ๋ยเคมีได้ ฤดูกาลแรกที่ใช้ให้ใช้ควบคู่กะปุ๋ยเม็ดเคมีก่อนแต่ลดปริมาณปุ๋ยเม็ดลงเหลือครึ่งเดียวได้ คือค่อยๆลด หรือจะใส่สัก30%ก็ได้ ควบคู่ไปกะใช้ เอ็กตร้าตัวนี้ วิธีการทำงานของไฮไลฟ์โกร เอ็กตร้า คือ ปรับปรุง ฟื้นฟู เพิ่มผลผลิต ใช้กับพืชปุ๊บ พืชกินได้ปั๊บ กินอิ่มสะสมไว้ใช้ในครั้งต่อไปได้ด้วย พอหิวต้องการอาหารก็เอาที่สะสมไว้มากินต่อ อิ่มก็หยุดกิน หิวก็เอาที่สะสมไว้มากิน จึงทำให้การใช้เอ็กซตร้า พืชสามารถทำกิจกรรมเติบโตสร้างดอกผลได้โดยไม่หยุดชะงักงันแม้อยู่ในสภาวะอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในการเจริญเติบโตเลยก็ตาม พืชสามารถได้รับแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับพืชครบถ้วน 13 ชนิด


เขาเพชร ปุ๋ยอินทรีย์เคมี จากมูลค้างคาว ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ได้รับสัมปทานถ้ำค้างคาว เขาหน่อ – เขาแก้ว อ.บรรพตพิสัย จ. นครสวรรค์ สารอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น จุลินทรีย์นำเข้าจากอิสราเอล

ปุ๋ยมูลค้างคาว
1 มีปริมาณความเข้มข้นของธาตุอาหารพืชสูงกว่าปุ๋ยอินทรีย์ชนิดอื่น
2 ปุ๋ยมูลค้างคาวนอกจากจะให้ธาตุอาหารที่เพียงพอแล้ว ยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินด้วยทำให้ดินร่วน ดินซุย
3 ในมูลค้างคาวอุดมไปด้วย ธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม เช่น แคลเซี่ยม แมกนีเซี่ยม กำมะถัน เหล็กแมงกานีส สังกะสี ทองแดง โบรอน และโมลิบดินัม คลอลีน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของพืชโดยทั่วไป
4 ในมูลค้างคาวมีธาตุอาหารฟอสฟอรัสมากเป็นพิเศษ จึงเหมาะสมกับการนำมาใช้ทั้งใน พืชผัก พืชสวน พืชไร่ และไม้ดอก ไม้ประดับ จ ช่วยเพิ่มในเรื่องของ สีสัน รสชาติ และเพิ่มผลผลิตได้อย่างดี

ส่วนประกอบสำคัญในการผลิตปุ๋ย
1 วัตถุดิบมูลค้างคาว มูลค้างคาวจำนวนมหาศาลที่บริษัทฯได้รับสัมปทานถ้ำค้างคาวนั้น สามารถนำมาผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของมูลค้างคาวเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่ามีประโยชน์ต่อพืชมากมาย อุดมไปด้วยธาตุอาหารครบตามที่พืชต้องการ และพืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์
2 สารอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นอย่างมาก ซึ่งทางบริษัทฯได้นำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตุ๋ยด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเท่าทวีคูณ เพราะสารอาหารดังกล่าวมีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม รวมทั้งฮิวมัส ฮิวมิค อะมิโน สารอาหารชนิดนี้เป็นเคมีธรรมชาติ ที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตอาหารของประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลไม่ได้ตีค่าเป็นเคมี แต่ด้วยคุณค่านั้นเหนือกว่าเคมีนำเข้าโดยทั่วไป การลดปล่อยต่างกัน ให้คุณค่าที่สูงกว่า พืชจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า
3 จุลินทรีย์สายพันธุ์พิเศษนำเข้าจากประเทศอิสราเอล เป็นอีกส่วนผสมหนึ่งที่ใช้ในกระบวนการผลิตปุ๋ยของทางบริษัทฯ จุลินทรีย์สายพันธุ์นี้ มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ สามารถทำลายเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุของรากเน่า โคนเน่า ในพืชทุกชนิด ช่วยพัฒนาระบบราก ปรับสภาพดินที่เสียให้ร่วนซุย ปรับค่า PH ของดินให้เหมาะสม


อัตราและวิธีการใช้
ชนิดพืช : นาข้าว
ระยะที่ใช้ : ระยะแรก 15 – 30 วัน อัตราการใช้ : 40 – 80 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : หว่านทั่วแปลง
ระยะที่ใช้ : ระยะแรก 50 – 60 วัน อัตราการใช้ : 40 – 80 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : หว่านทั่วแปลง
ชนิดพืช : ข้าวโพด
ระยะที่ใช้ : ระยะพร้อมปลูก อัตราการใช้ : 50 – 100 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : โรยรองก้นหลุมพร้อมปลูก
ระยะที่ใช้ : ระยะแรก 20 – 25 วัน อัตราการใช้ : 30 – 40 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : โรยตามแนวข้าวโพด
ชนิดพืช : ส้ม มะนาว มะม่วง เงาะ ทุเรียน มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ ลองกอง ฝรั่ง ชมพู่ องุ่น ปาล์ม
ระยะที่ใช้ : มีผลแล้ว อัตราการใช้ : 3 – 5 กก.ต่อต้น /ครั้ง วิธีการใช้ : หว่านรอบทรงพุ่ม
ระยะที่ใช้ : ยังไม่มีผล อัตราการใช้ : 2 – 3 กก.ต่อต้น /ครั้ง วิธีการใช้ : หว่านรอบทรงพุ่
ชนิดพืช : ยางพารา
ระยะที่ใช้ : กรีดแล้วต้น , ปลายฝน อัตราการใช้ : 1 – 2 กก.ต่อต้น /ครั้ง วิธีการใช้ : โรยขนานแถว
ระยะที่ใช้ : ยางเล็ก ต้น, ปลายฝน อัตราการใช้ : 0.5 กก.ต่อต้น /ครั้ง วิธีการใช้ : โรยขนานแถว
ชนิดพืช : อ้อย มัน สับปะรด
ระยะที่ใช้ : ใช้รองพื้นก่อนปลูก อัตราการใช้ : 50 – 100 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : โรยในร่องแล้วกลบ
ระยะที่ใช้ : พืชอายุ 1 – 2 เดือน อัตราการใช้ : 50 – 100 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : โรยข้างแถว
ชนิดพืช : พริก หอม กระเทียม แตง ถั่ว สตอเบอรี่
ระยะที่ใช้ : ใช้รองพื้นระยะให้ผล อัตราการใช้ : 50 – 100 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : หว่านทั่วแปลง
ชนิดพืช : ผักทุกชนิด ยาสูบ
ระยะที่ใช้ : ใช้รองพื้น อัตราการใช้ : 50 – 100 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : หว่านทั่วแปลง


เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในนาข้าว 1,500 กก.ต่อไร่
* หลังจากเมื่อข้าวอายุ 25 – 30 วัน ( หว่านปุ๋ยรอบแรก ) หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 40 กก.ต่อไร่ ช่วยบำรุงต้น ขยายกอ ทำให้ต้นแข็ง ใบตั้ง ต้านทานโรคแมลง และเมื่ออายุข้าวประมาณ 35 – 40 * เมื่ออายุข้าวได้ 60 – 65 วัน ( หว่านปุ๋ยรอบสอง ) หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 40 กก.ต่อไร่ ช่วยบำรุงต้นข้าว ทำให้ต้นข้าวสมบูรณ์ ในช่วงข้าวตั้งท้องอ่อนๆควรใช้ * ในช่วงข้าวเริ่มออกรวงประปลาย( หว่านรับรวง( หว่านปุ๋ยรอบสาม )) หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 20 กก.ต่อไร่ ช่วยบำรุงต้น สะสมอาหารสร้างรวง
สรุปการใช้ปุ๋ยและฮอร์โมนพืชในนาข้าว หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 ช่วงข้าวอายุ 25 – 30 วัน อัตรา 40 กก.ต่อไร่ ครั้งที่ 2 ช่วงข้าวอายุ 60 – 65 วัน อัตรา 40 กก.ต่อไร่ ครั้งที่ 3 ช่วงข้าวเริ่มออกรวงประปลาย อัตรา 20 กก.ต่อไร่
สรุปผลจากการใช้ในนาข้าว
1 ราก ทำให้รากยาว ขาวอวบ พืชหาอาหารได้ดีกว่า ทำให้เจริญเติบดตได้ดี 2 แตกกอดี ช่วยเพิ่มการแตกกอ เพิ่มจำนวนต้น รวงที่มากขึ้น ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 3 เขียว ข้าวเขียวทนเขียวนานกว่าใช้ปุ๋ยเคมี ข้าวเริ่มเขียวพร้อมกัน เขียวเสมอกัน 4 ต้นเขียวใบตั้ง ลำต้นแข็งแรง ข้าวไม่ล้ม ช่วยต้านทานโรคและแมลงได้ดี ช่วยลดค่ายาฆ่าแมลงลงได้ 5 ข้าวรวงใหญ่ รวงยาว เมล็ดข้าวแกร่ง ไม่ลีบ น้ำหนักดี ข้าวสุกแก่พร้อมกัน ไม่โดนตัดราคา 6 ขั้วเหนียว ข้าวไม่หลุดร่วงง่าย ลดการสูญเสียผลผลิต ทำให้ได้ผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น 7 ข้าวสุกก่อน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อน ช่วยลดต้นทุนค่าสูบน้ำเข้านา 8 ช่วยปราบหอยเชอรี่ได้ ช่วยลดต้นทุนค่ายาปราบหอย 9 ดินเป็นหล่ม สภาพดินดี มีธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ ปุ๋ยมูลค้างคาวสามารถปลดปล่อยธาตุอาหารได้ดีกว่าและนานกว่าปุ๋ยเคมี ทำให้ธาตุอาหารในดินมีมาก สังเกตจากใบธงเขียวยันวันเกี่ยว ช่วยปรับโครงสร้างดิน ฟื้นฟูสภาพดิน ทำให้ดินดีขึ้น

เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในไม้ผล เช่น ส้ม ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง ทุเรียน เงาะ เป็นต้น
* ระยะยังไม่มีผล ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 2 – 3 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยให้ต้นสมบูรณ์ โตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน * ระยะมีผลแล้ว ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 3 – 4 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของต้น ทำให้ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ติดดอกดก ติดผลดก ผลใหญ่ รสชาติดี น้ำหนักดี สีสวยสีเข้ม

เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในยางพารา
* ในยางเล็กก่อนเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ช่วงต้นฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 0.5 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเร่งต้น ทำให้ยางโตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ต้นยางสมบูรณ์มาก แทงฉัตร 60 – 80 ต่อฉัตร * ในยางเล็กก่อนเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ช่วงปลายฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 0.5 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเร่งต้น ทำให้ยางโตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ต้นยางสมบูรณ์มาก แทงฉัตร 60 – 80 ต่อฉัตร
* ในยางเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ช่วงต้นฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 – 3 อัตรา 1 กก./ต้น/ครั้ง ช่วยป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า ป้องกันยางหน้าตาย ช่วยขยายท่อน้ำยาง ทำให้เปลือกยางนิ่ม กรีดง่าย ปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้น เปอร์เซ็นน้ำยางสูง * ในยางเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ปลายฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 – 3 อัตรา 1 กก./ต้น/ครั้ง ช่วยป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า ป้องกันยางหน้าตาย ช่วยขยายท่อน้ำยาง ทำให้เปลือกยางนิ่ม กรีดง่าย ปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้น เปอร์เซ็นน้ำยางสูง


http://thehealthylife.lnwshop.com/




   
  


ราคา: ไม่ระบุต้องการ: ขาย
ติดต่อ: ต่ายอีเมล์: 
โทรศัพย์: IP Address: 1.20.1.170
มือถือ: 0856499898 จังหวัด: กรุงเทพมหานคร

คำค้น:  ปุ๋ยน้ำ | ปุ๋ยเม็ด | สารอาหารพืช | ชีวภาพ | มูลค้างคา | วปุ๋ยอินทรีย์ | ธรมชาติ |



ดูสินค้าอื่นๆ | ลงประกาศ | เลื่อนประกาศขึ้น | ลบประกาศ | แก้ไขประกาศ

[ รับจำนอง ขายฝาก บ้าน ที่ดิน ทั่วประเทศ กู้เงินง่าย ได้เงินไว ไม่เช็คแบล็คลิส ]





ประกาศอื่นๆในหมวดหมู่เดียวกัน 20 รายการ (แสดงทั้งหมด)

รูป   รายละเอียด ราคา
 
  2,480 บาท
  0 บาท
 
  0 บาท
  650 บาท
  500 บาท
  5,990 บาท
  2,480 บาท
  0 บาท
  2,990 บาท
 
  5,990 บาท
  5,990 บาท
  2,990 บาท
  5,990 บาท
 
[อื่นๆ] ค้นหา : ดูดวง ,
299 บาท
  35,000 บาท
  3,900 บาท
  5,990 บาท