Stem-Cell จากแอปเปิ้ลหน้าเด้งเหมือนทำศัลยกรรม

Stem-Cell จากแอปเปิ้ลหน้าเด้งเหมือนทำศัลยกรรม
ในปัจจุบันนี้ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอื่นๆทั่วโลก กำลังเกิดกระแสความสนใจ

เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่เกี่ยวกับ Stem Cell เป็นส่วนประกอบอย่างกว้างขวาง

สอดคล้องกับการคาดคะเนแนวโน้มอนาคตของการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางให้สามารถ

ตอบสนองตรงต่อความต้องการของผู้บริโภค จากนี้ไปเทคโนโลยีด้านพันธุวิศวกรรมจะเข้ามามี

บทบาทต่อสารในเครื่องสำอางผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะมีความต้องการเครื่องสำอางที่สามารถช่วยชะลอวัย คงความอ่อนเยาว์ โดยสามารถใช้เองได้สะดวก ช่วยลดภาระการไปพบแพทย์

หลีกเลี่ยงความเสี่ยง และความรุนแรงจากเทคโนโลยีการรักษา

Stem Cell คืออะไร

คำตอบส่วนใหญ่จะให้ความเห็นว่า Stem Cell นับเป็น อนาคตของการแพทย์เพราะมี

คุณสมบัติที่สามารถฟื้นฟูแก้ไขสารพันปัญหาสุขภาพหรือความเจ็บป่วย สามารถเข้ามา

แทนที่ยาหรือการผ่าตัดในปัจจุบัน Stem Cell จึงได้ก้าวขึ้นมาเป็น Repair Kitของร่างกาย

ความเป็นมา คุณสมบัติและประโยชน์ของ Stem Cell

รูปลักษณะของ Stem Cell บริเวณบริเวณของเซลล์และอวัยวะที่มี Stem Cell ซึ่งจาก

การวิจัย ได้พบประโยชน์ของ Stem Cell ต่อมวล มนุษย์ มากขึ้นตลอดเวลา และถูกพัฒนาไปเป็นผลิตภัณฑ์ช่วยลดริ้วรอยของวัย ให้กับผิวพรรณ Stem Cell มีคุณสมบัติแตกต่างจากเซลล์อื่นๆในสามประการ

1. Stem Cell มีความสามารถและคุณสมบัติที่ไม่จำกัด (Unlimittedpotency)ไนคุณสมบัตินี้เอง ที่ทำให้ Stem Cell สามรถนำมาปลูกถ่ายและกระตุ้นให้เจริญเป็นเซลล์ต่างๆในอวัยวะสำคัญ (Differentiate) เช่น กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์เม็ดเลือดหรือเซลล์ประสาท

2. Stem Cell สามรถแบ่งตัวเพิ่มจำนวน (Mitotic cell division) และเกิดใหม่ (Self renewal) ได้อีกมากกว่าเซลล์ชนิดอื่นๆซึ่งต่างจากเซลล์กล้ามเนื้อเซลล์เม็ดเลือด หรือเซลล์ประสาท ที่เมื่อเสื่อมสภาพหรือถูกทำลายไปจะไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ด้วยตนเองเพื่อทดแทนเซลล์ที่สูญเสีย แต่ Stem Cell จะสามารถแบ่งเพิ่มตัวได้หลายครั้งภายใต้กระบวนการSproliferation ซึ่งพบว่าภายในเวลาไม่กี่เดือนจะสามารถเพิ่มจำนวน Stem Cell ได้นับล้านและหากว่าการวิจัยในอนาคตสามารถสรุปได้ว่า Stem Cell จะยังสามารถมีคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับ Stem Cell ต้นแบบ ก็จะมีผลช่วยให้ง่ายในการเพิ่มปริมาณ สร้างความสะดวกต่อการนำ Stem Cell มาใช้ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมอื่นๆอย่างเช่นการนำมาใช้ในเครื่องสำอางซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์และมีการพัฒนาได้กว้างขวางมากขึ้น

3. Stem Cell มีคุณสมบัติที่สามารถระบุเป้าหมายเจาะจงให้ไปทำหน้าที่ฟื้นฟูสภาพของเซลล์ที่ต้องการรักษาได้และเป็นเซลล์ที่มี Genetic Signal เมื่อได้รับการสัมผัสทางกายภาพกับเซลล์ที่มีอยู่ในจุดเป้าหมายก็จะถูกกระตุ้นโดย ปฏิกิริยา ทางเคมีที่หลั่งโดยเซลล์ของบริเวณนั้น ทำให้Stem Cell เกิดการแบ่งตัวเพิ่มส่งผลให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ในบริเวณเป้าหมายนั้นมากขึ้นเซลล์ที่เกิดขึ้นมาใหม่ในบริเวณนั้น จึงเป็นเซลล์ที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง

เทคโนโลยี Stem Cell ในเครื่องสำอาง

แรกเริ่มก่อนที่จะถูกนำมาใช้เครื่องสำอางนั้น เทคโนโลยี Stem Cell ได้ถูกนำมาใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยที่ถูกไฟไหม้ โดยใช้สาร Epidermal Growth Factor (EGF) ซึ่งโดยปกติร่างกายจะสามารถหลั่งออกมาใช้ได้ตามธรรมชาติในเวลาที่ได้รับบาดเจ็บ และเมื่อทดลองนำ EGF ไปทาลงบนรอยแผลไฟไหม้พบว่ามีผลเสริมประสิทธิภาพ การซ่อมแซมช่วยให้แผลจากไฟไหม้สามารถฟื้นฟูและช่วยให้รอยแผลหายได้เป็นอย่างดี ในเวลาเดียวกันนั้นเองก็พบว่าบริเวณที่มีริ้วรอยย่นลึกๆก็ได้ฟื้นฟูขึ้นด้วย ทำให้รอยย่นที่มีอยู่บนผิวลดลงไปได้พร้อมกัน จากผลของความสามารถในการซ่อมแซมที่บังเอิญพบในการศึกษาตรงนั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าโมเลกุลในแบบเดียวกันจะสามารถนำมาใช้ช่วยฟื้นฟู แก้ไขปัญหาผิวที่มีริ้วรอยได้ จึงได้นำหลักการของกระบวนการออกฤทธิ์กระตุ้นปัจจัยการฟื้นฟูซ่อมแซมที่มีอยู่ตามธรรมชาติในเซลล์ผิวหนังของ Stem Cell มาพัฒนาขึ้นเป็นเครื่องสำอางเพื่อใช้แก้ปัญหาผิวที่มีริ้วรอยผิวที่มีปัญหาอาการแก่ และสีผิวที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะผลจากรังสีในแดด รวมถึงผิวที่เกิดจากการทำลายด้วยสาเหตุต่างๆ

ข้อสรุป

ซึ่งในปัจจุบันนี้เองได้มีการพัฒนาโดยการนำ Plant Cell (จากผล แอปเปิ้ล) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น Adult Stem Cell ซึ่งมีผลการทดลองว่าสามารถช่วยปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้ถูกทำลายได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่และจากนวัตกรรมดังกล่าวยังได้รับรางวัลเป็นที่ยอมรับทั่วโลก โดยผนวกกับการใช้สาร Nano- Epidermal Growth Factorรวมกับ Plant Stem Cell ที่มีความปรอดภัยสูง รวมกับสาร Anti-Aging นานาหลากหลายชนิด *(Multiconcept-Anti-Aging) จึงสามารถเป็นตัวสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าสามารถเกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพอย่างชัดเจน   http://www.wanadeebeauty.com/">http://www.wanadeebeauty.com   สอบถามเพิ่มเติม 087-5956659,089-6747542 (เอ)