ครีมกันแดดเนื้อเนียนนุ่ม ด้วยเทคโนโลยีนาโน ที่สามารถปกป้องผิวในชั้นที่ลึกกว่าครีมทั่วไป ได้ถึง2เท่า เนื้อครีมบางเบาดุจใยไหม ไม่มันแม้แต่น้อย แห้งสบายที่สุดถึงที่สุด ให้ความรู้สึกเบาสบายผิว ทำให้ไม่เหน

ครีมกันแดดเนื้อเนียนนุ่ม ด้วยเทคโนโลยีนาโน ที่สามารถปกป้องผิวในชั้นที่ลึกกว่าครีมทั่วไป ได้ถึง2เท่า เนื้อครีมบางเบาดุจใยไหม ไม่มันแม้แต่น้อย แห้งสบายที่สุดถึงที่สุด ให้ความรู้สึกเบาสบายผิว ทำให้ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบมันบนใบหน้า เนื้อครีมเกลี่ยง่าย พร้อมประสิทธิภาพในการดูดซึมแสงอุลตราไวโอเลต แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานแสงที่อยู่ในรูปซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง คุณสมบัติที่ดีของสารกันแดด คือ
1. กรองแสงได้ทั้งยูวีบี และยูวีเออย่างน้อยควรกรองแสงช่วงยูวีบีช่วงความยาวคลื่น 290-320 นาโนเมตรได้
2. ผ่านเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย
3. จับกับผิวหนังได้ดี
4. ไม่หลุดง่ายเมื่อถูกน้ำ
5. ไม่ต้องทาบ่อย
6. มีความคงตัวดี ไม่สลายง่าย
7. ไม่เป็นสารที่มีพิษ
8. ไม่ทำให้ผิวหนังเกิดอาการแพ้ (non-sensitized skin)
9. ไม่ระเหยง่าย

ปกป้องรังสี ด้วยคุณลักษณ์พิเศษ เนื้อกันแดดไม่เหมือนใคร สูตรพิเศษแสนบางเบา เนียนบางมาก คลุมปกป้องผิวได้ถึง SPF60 แต่ผิวหายใจได้ ไม่อุดตัน ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ไม่แต่งสี แต่งกลิ่นใดๆ ติดทนนานตลอดวัน และยังดูดซับความมันระหว่างวัน ปกป้องผิวให้คงความกระจ่าง ขาวสดใส เนียนดุจกำมะหยี่

ปัจจุบันครีมกันแดด นิยมใส่สารที่มีคุณสมบัติเป็นสารที่ป้องกันการเกิดผิวเกรียมแดด และสารที่ทำให้ผิวคล้ำแดดไว้ด้วยกัน โดยใส่ในปริมาณความเข้มข้นต่างกัน เช่น ครีมกันแดดที่ใส่สาร octyl dimethyl PABA 7% และสาร oxybenzone 3% เนื่องจากการทดลองพบว่าทำให้ได้ครีมกันแดดมีประสิทธิภาพในการป้องกันแดด (Sun Protective Factor หรือ SPF) เท่ากับ 15 ซึ่งจะป้องกันแสงอุลตราไวโอเลตในช่วงยูวีบี ได้ทั้งหมด และหากใช้สม่ำเสมอก็จะป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ ค่า SPF นี้ คือจำนวนเท่าของเวลาที่ผิวทนต่อแสงอุลตราไวโอเลต หลังทาครีมกันแดดแล้ว เทียบกับเวลาของผิวที่ยังไม่ได้ทาครีมกันแดดจะทนได้ เช่น โดยปกติเราทนแสงแดดได้นาน 30 นาที แต่ภายหลังทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF จะทนได้นาน 30 * 15 นาที ซึ่งเท่ากับ 7 ชั่วโมงครึ่ง

สารกันแดด ที่มีค่า SPF สูง จะมีประสิทธิภาพในการกันแดดได้ดีถ้ามีค่า ต่ำ ก็จะมีประสิทธิภาพในการกันแดดได้น้อย เหมาะสำหรับในรายที่ต้องการให้ผิวคล้ำแดด การพิจารณาเลือกใช้ครีมกันแดดขึ้นอยู่กับชนิดของผิวหนังด้วย เช่น ในรายที่ผิวหนังไวต่อแสงแดด และเกิดผิวเกรียมแดดง่าย ต้องใช้ครีมที่มีค่า SPF สูง

ข้อดีของการใช้ครีมนี้ นอกจากจะช่วยป้องกันอันตรายจากแสงอุลตราไวโอเลตต่อผิว และช่วยไม่ให้ผิวหนังดูแก่ก่อนวัยแล้ว ครีมกันแดดยังเป็นสิ่งจำเป็นมาก สำหรับผู้มีปัญหาเรื่องฝ้า เพราะจะมีผิวหน้าซึ่งไวต่อแสงอุลตราไวโอเลต การใช้ครีมกันแดด ควบคู่ไปกับครีมป้องกันฝ้า จะช่วยให้ผลการรักษาดีขึ้น และเหมาะสมสำหรับผู้ที่เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือมีอาชีพเป็นครูสอนกีฬา เทนนิส ว่ายน้ำ เป็นต้น

ประเทศไทยเป็นประเทศในเขตร้อน มีปริมารแสงอุลตราไวโอเลตมาก ความร้อนและรังสีเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไทยเป็นฝ้ามาก และหน้าเป็นดวงขาว ๆ ซึ่งศัพท์ทางแพทย์เรียกว่า Pityrians ALBA (P.ALBA) สาเหตุเกิดจากความแห้งและแสงแดด จะเป็นกันมากหน้าร้อน ทางป้องกันที่ดีนอกจากหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งแล้วคือการใช้ครีมกันแดด หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับช่วงความยาวคลื่น ก็ควรใช้ครีมกันแดดซึ่งป้องกันทั้งแสงในช่วงยูวีเอและยูวีบี ครีมนี้ใช้ได้ทุกโอกาส โดยเฉพาะครีมกันแดด การทาครีมกันแดดให้ได้ผลดีที่สุดควรทาทุกวันแม้จะไม่ออกจากบ้าน ถ้าเหงื่อออกมาก หรือล้างหน้า ควรทาครีมกันแดดซ้ำใหม่

คุณสมบัติ

* เทคโนโลยีนาโนซึมเข้าชั้นผิวได้ลึกกว่า
*ปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดวันด้วย SPF 60
*UVA/UVB Protection
- ปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ ( UVA) อันเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย
- ปกป้องผิวจากรังสียูวีบี ( UVB) อันเป็นสาเหตุของกระ ฝ้าและผิวหมองคล้ำ
* Double Protection
ผสมผสานระหว่างสารกันแดดกายภาพ ( Physical SunScreen)
ทำหน้าที่สะท้อนรังสี ยูวี และสารกันแดดเคมี (Chemical Sunscreen )
ทำหน้าที่ดูดซับรังสียูวีไว้ ทำให้รังสีไม่สามารถผ่านเข้าสู่ผิวหนังได้

วิธีใช้....ใช้ทาก่อนออกแดด 20-30 นาที

*** ผลิตภัณฑ์มีใบรับรองจากแลปคุณภาพ GMP.*** *** เนื้อเนียน บางเบามาก ๆ ค่ะ แม่ค้าเองยังติดใจ ***   ราคา  290  บาท     คุณ ธัญพร โทร. 086-5497047  Email : [email protected] http://www.natureshopbytanya.com/">http://www.natureshopbytanya.com